การบ้านครั้งที่ 2 10/11/2553

คำที่ 1 Topology

              Topology is the physical (external) network, which refers to the nature of the communication line associated with the device. Electronics and computer. Within the network with the same time. Topology of the network, each LAN is appropriate to use. Different away. Implementation is necessary for us to study the style and features. Advantages and disadvantages of each topology. To be used in designing the network. Suitable for use. Form of topology. Of the major networks are following.

1. Topology bus (BUS).
2. Topology ring (RING).
3. Topology stars (STAR).
4. Topology Hybrid.
5. Topology MESH.

คำที่ 2 DDoS

            DDoS หรือ ดีดอส หรือ Distributed Denial-of-Service หรือ ดิสทริบิวต์ออฟเซอร์วิส คือ ลักษณะหรือวิธีการหนึ่งของการโจมตีเครื่องคอมพิวเตอร์เป้าหมายหรือระบบเป้าหมายบนอินเทอร์เน็ตของแฮกเกอร์ เพื่อทำให้ระบบเป้าหมายปฏิเสธหรือหยุดการให้บริการ (Denial-of-Service)การโจมตีจะเกิดขึ้นพร้อมๆกันและมีเป้าหมายเดียวกัน โดยเครื่องที่ตกเป็นเหยื่อทั้งหมด (เครื่องที่ติดเชื้อจากการแพร่กระจายตัวของโค้ดร้ายซึ่งเป็นเครื่องมือของแฮกเกอร์สำหรับการควบคุมระบบ) จะสร้างข้อมูลขยะขึ้นมา แล้วส่งไปที่ระบบเป้าหมายกระแสข้อมูลที่ไหลเข้ามาในปริมาณมหาศาลทำให้ระบบเป้าหมายต้องทำงานหนักขึ้นและช้าลงเรื่อยๆ เมื่อเกินกว่าระดับที่รับได้ ก็จะหยุดการทำงานลงในที่สุด อันเป็นเหตุให้ผู้ใช้ไม่สามารถใช้บริการระบบเป้าหมายได้ตามปกติ.

คำที่ 3 Firewall – ระบบรักษาความปลอดภัย

             ถ้าแปลเป็นภาษาไทย จะหมายถึง กำแพงไฟ ซึ่งน่าจะหมายถึงการป้องกันการบุกรุก โดยการสร้างกำแพง อย่างไรก็ตาม ความหมายของ Firewall สามารถอธิบายได้ดังนี้ คือ Firewall เป็นเครื่องมือที่ใช้สำหรับป้องกันระบบ Network (เครือข่าย) จากการสื่อสารทั่วไปที่ถูกบุกรุก จากผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต เป็นเรื่องเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยในระบบ Network หรือระบบเครือข่าย การป้องกันโดยใช้ระบบ Firewall นี้จะเป็นการกำหนดกฎเกณฑ์ในการควบคุมการเข้า-ออก หรือการควบคุมการรับ-ส่งข้อมูล ในระบบเครือข่าย นั่นเอง


คำที่ 4 IEEE

            IEEE คือ สถาบันวิศวกรรมไฟฟ้าและวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์นานาชาติ ชื่อเต็มคืInstitute of Electrical and Electronic Engineers ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1963 ในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยการรวมตัวของวิศวกรไฟฟ้าและวิศวกรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งดำเนินกิจกรรมร่วมกันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านโทรคมนาคม, ระบบไฟฟ้ากำลัง และระบบแสง

               สถาบัน IEEE เป็นสถาบันที่กำกับ ดูแลมาตรฐานวิจัยและพัฒนาความรู้และงานวิจัยใหม่ๆ ตลอดจนเผยแพร่ความรู้ โดยเน้นด้านไฟฟ้ากำลัง คอมพิวเตอร์ โทรคมนาคม ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ระบบวัดคุม โดยนักวิจัยเหล่านี้มีอยู่ทั่วโลก และจะแบ่งกลุ่มศึกษาตามความเชี่ยวชาญของแต่ละบุคคล โดยมาตรฐานจะเขียนออกมาในรูปแบบนี้ เช่น IEEE 802.3 โดยมีตารางมาตรฐานที่เกี่ยวข้องในระบบ LAN (Ethernet) ดังต่อไปนี้

IEEE802.3

               คือโปรโตคอลในเครือข่าย Ethernet อัตราเร็ว 10Mbps ใช้มาตรฐานโปรโตคอล 1-persistantCSMA/CD มีกฎเกณฑ์การทำงานคือ โหนดจะส่งข้อมูลได้ก็ต่อเมื่อสายสื่อสารว่างถ้ามีโหนดมากกว่า 1 ส่งข้อมูลพร้อมเดียวกัน ข้อมูลจะชนกัน โหนดที่ส่งข้อมูลจะต้องหยุดการส่งข้อมูล รอสุ่มเวลา ใครใช้เวลาสุ่มน้อยกว่าจะมีสิทธิ์ส่งข้อมูลก่อน และสายสื่อสารจะไม่ว่าง



IEEE802.5

               หรือโทเค็นริง หรือมักเรียกว่าIBM Token Ring จัดเป็นเครือข่ายที่ใช้ Ring topology ด้วยสาย Twisted pair หรือ fiber optic อัตราการส่งข้อมูลของ Token Ring ที่ใช้โดยทั่วไปคือ4และ6 MbpsการทำงานของToken Ring จะมีเฟรมพิเศษเรียกว่า โทเค็นว่าง (free Token)วิ่งวนอยู่ในทิศทางเดียวการส่งข้อมูลจะต้องรอให้ Free Token เปลี่ยนมาเป็น เฟรมข้อมูลโดยใส่แฟล็กแสดงเฟรมข้อมูลและบรรจุ Address ชองสถานีต้นทางและสถานีปลายทางตลอดจนข้อมูลอื่นๆจากนั้นสถานีจึงปล่อยเฟรมนี้ออกไป Token Ring จึงเหมาะสำหรับระบบที่ต้องการความแน่นอนทางเวลาหรืองานแบบเวลาจริงถ้าให้พูดกันแบบเข้าใจง่ายๆ มาตรฐาน



IEEE 802.11

        คือ มาตรฐานของการรับ - ส่งข้อมูลโดยอาศัยคลื่นความถี่ ตัวอย่างของการใช้งานเช่น Wireless LANหรือ Wi-Fi

มาตรฐาน IEEE 802.11a มาตรฐาน IEEE 802.11a เป็นมาตรฐานแรกที่ได้รับการประกาศออกมา โดยอาศัยการส่ง

ข้อมูลในช่วงคลื่น 5 GHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่สูง ทำให้ความเร็วในการส่งข้อมูลสูงตามไปด้วยโดยมีความสามารถในการรับ - ส่งข้อมูลได้สูงสุดที่ 54 Mbps แต่ในช่วงแรกบางประเทศไม่อนุญาตให้ใช้งาน เนื่องจากคลื่นความถี่ 5 GHz นั้นไม่ใช่ความถี่สาธารณะ จำเป็นต้องได้รับอนุญาตเสียก่อน

              มาตรฐาน IEEE 802.11b มาตรฐาน IEEE 802.11b เป็นมาตรฐานที่ออกมาพร้อมกับ 802.11a เพียงแต่ใช้คลื่นความถี่ที่ 2.4 GHz ซึ่งเป็นคลื่นความถี่ที่ต่ำกว่า 802.11a จึงทำให้มีความเร็วในการรับ - ส่งข้อมูลที่ช้ากว่าโดยมีความสามารถในการรับ - ส่งสูงสุดที่ 11 Mbps เท่านั้น แต่เนื่องจากคลื่นความถี่ 2.4 GHz เป็นคลื่นความถี่สาธารณะ จึงสามารถนำไปใช้งานได้ในทุกๆ ประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องขออนุมัติก่อน แต่เนื่องจากเป็นคลื่นความถี่สาธารณะ ดังนั้นอุปกรณ์ไร้สายอื่นๆ จึงใช้คลื่นความถี่นี้เช่นเดียวกันเลยทำให้เกิดสัญญาณรบกวนกันได้ง่ายมาก ทำให้ประสิทธิภาพของมาตรฐานนี้จึงถูกลดทอนด้วยปัจจัยจากสภาพแวดล้อม

              มาตรฐาน IEEE 802.11g มาตรฐาน IEEE 802.11g เป็นมาตรฐานที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาจาก 802.11b โดยยังคงใช้คลื่นความถี่ 2.4 GHz แต่มีความเร็วในการรับ - ส่งข้อมูลเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 54 Mbps หรือเท่ากับมาตรฐาน 802.11a เพียงแต่ว่าความถี่ 2.4 GHz ยังคงเป็นคลื่นความถี่สาธารณะอยู่เหมือนเดิม ดังนั้นจึงยังมีปัญหาเรื่องของสัญญาณรบกวนจากอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นความถี่เดียวกันอยู่ดี

             มาตรฐาน IEEE 802.11N มาตรฐาน IEEE 802.11N อาจจะยังไม่ถือว่าเป็นมาตรฐานจริงๆ เนื่องจากยังไม่ได้ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ เพราะยังคงอยู่ในช่วงระหว่างการพัฒนาอยู่ และใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งมาตรฐาน 802.11N จะเป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดด้วยการใช้เทคโนโลยีมากมายเข้ามาช่วยเพื่อเพิ่มความเร็วในการรับ - ส่งข้อมูลให้สูงขึ้น โดยจะมีความเร็วอยู่ที่ 300 Mbps หรือเร็วกว่าแลนแบบมีสายที่มาตรฐาน 100 BASE-TX นอกจากนี้ยังมีระยะพื้นที่ให้บริการกว้างขึ้น โดยเทคโนโลยีที่ 802.11N นำมาใช้ก็คือเทคโนโลยี MIMO ซึ่งเป็นการรับส่งข้อมูลจากเสาสัญญาณหลายๆ ต้นพร้อมๆ กัน ทำให้ได้ความเร็วสูงมากขึ้น และยังใช้คลื่นความถี่แบบ Dual Band คือทั้ง 2.4 GHz และ5 GHz ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ว่าออกแบบมาให้ทำงานกับคลื่นใดหรือทำงานกับทั้งสองคลื่นพร้อมๆ กันได้ ซึ่งทำให้บางประเทศที่ยังไม่ได้อนุมัติให้ใช้เครือข่ายไร้สายมาตรฐาน 802.11a อาจจะมีปัญหากับการใช้งานเครือข่ายไร้สายตามมาตรฐาน 802.11Nเป็นอย่างไรบ้างครับกับความรู้ในเรื่องของมาตรฐาน IEEE 802.11 หวังว่าคงจะถูกใจกันนะครับ ถ้ามีข้อมูลผิดพลาดประการใดก็ต้องขออภัยด้วยครับ ฝากไว้อย่างหนึ่งคือว่า บางเรื่องมันอาจจะไม่สำคัญสำหรับการดำเนินชีวิต แต่ถ้ารู้ไว้บ้างก็คงไม่เสียหาย




คำศัพท์ Network

 คำที่  1    Snail mail
A  name  given  to  the  regular  postal  service  by  people who  use  electronic  mail.  While  sending  international mail through  the postal  service  can  take  week, with  electronic  mail  it takes  seconds.
เป็นคำศัพท์ที่ใช้เรียกระบบไปรษณีย์ปกติที่ไม่ใช่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากระบบการส่งจดหมายที่ให้กันอยู่ในปัจจุบันใช้เวลาไม่ต่ำหว่า 1 วันไปจนถึงเป็นเดือนหากข้ามประเทศ เมื่อเทียบกับไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งผู้ใช้ได้รับในทันทีแล้ว จะช้าเหมือนกันใช้ทาก (snail) ในการส่ง


คำที่  2    Virtual   Memory
            A  way  of  using  part  the hard  disk  to  simulate  more  memory  (RAM)than  actually  exists.  This  allows  a  computer  to  run  more  program  at  the  same  time.  Virtual  memory  is  slower  than  RAM-That’s  way adding  more  RAM  speeds  up the  computer  see   also  RAM
การจำลองพื้นที่ของฮาร์ดดิสก์ส่วนหนึ่งมาใช้งานเสมือนกับ RAM ค่ะ ถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุดจะต้องหาวิธีที่จะทำให้พื้นที่ที่กำหนดไว้ให้เป็น Swap File ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่บนฮาร์ดดิสก์ ทำให้การอ่านเขียนข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น

ลูกแรดเตรียมพร้อมล่าเหยื่อ



 สิ่งที่ได้รับจากการเรียนวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ 3
ครั้งที่ 1 การบรรยายประวัติศาสตร์ความเป็นมาของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต
สิ่งที่ได้จากการเข้ารวมรับฟังการบรรยายในครั้งนี้ก็คือ ได้เรียนรู้ประวัตความเป็นมาของมหาวิทยาลัยที่เราสมควรที่จะรู้ รวมถึงการรู้จักสถานที่ต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นจากเดิม
ครั้งที่ 2  การพัฒนาบุคลิกภาพและธนาคารความดี
            สิ่งที่ได้รับจากการเข้าร่วมรับฟังการบรรยายในครั้งนี้ ก็คือ การได้รับรู้ถึงการพัฒนาบุคลิกภาพของตนเองในการวางตัวในมหาวิทยาลัย ว่าควรว่างตัวอย่างไร และปฏิบัติตนอย่างไรเมื่ออยู่ในสถานที่ต่าง ๆ  รวมถึงการพัฒนาทางด้านการแต่งกายว่าควรแต่งอย่างไรให้ถูกระเบียบ อีกอย่างหนึ่งก็คือการทำความดีในรูปแบบต่างๆ ที่เราสามารถปฏิบัติได้
ครั้งที่ 3 การบริหารการเงินส่วนบุคคล
            สิ่งที่ได้รับจากการเข้าร่วมรับฟังการบรรยายในครั้งนี้ ก็คือ การทราบถึงการบริหารจัดการการเงินที่มีอยู่ในกระเป๋าให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ครั้งที่ 4 ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน
สิ่งที่ได้รับจากการเข้าร่วมรับฟังการบรรยายในครั้งนี้ ก็คือ การใช้ภาษาไทยให้ถูกต้องทั้งหลักการอ่าน การเขียน ให้ถูกต้องตามหลักของภาษาไทย รวมถึงได้คัดไทยด้วยตัวบรรจงช่วยให้ฝึกการคัดไทยให้ถูกต้องรวมถึงการรู้จักคำต่าง ๆ มากขึ้น
ครั้งที่ 5 จรรยาบรรณวิชาชีพกับธรรมะ
            สิ่งที่ได้รับจากการเข้าร่วมรับฟังการบรรยายในครั้งนี้ คือ การได้รับรู้จรรยาบรรณของอาชีพต่าง ๆ ว่ามีลักษณะอย่างไรไนแต่ละสาขาอาชีพและควรปฏิบัติตนอย่างไรให้เข้ากับงานที่ทำ ให้สอดคล้องกับหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา
 สรุปสิ่งที่ได้จากการเรียน
            จากที่ได้ศึกษาในรายวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ 3 ข้าพเจ้าได้รับประโยชน์จากหลาย ๆ สิ่งที่ไม่เคยได้เรียนรู้หรือทำมาก่อน เช่น การจัดทำโครงการ โดยข้าพเจ้าได้จัดทำโครงการการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สู่ชุมชนบ้านหนองพลวง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งโครงการนี้ข้าพเจ้าไม่ได้จัดทำเพียงผู้เดียวแต่ทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นงานที่มีความพิเศษอย่างมากในชีวิตข้าพเจ้าเพราะไม่เคยทำมาก่อนและเป็นความใฝ่ฝันที่ข้าพเจ้าอยากทำมาตลอด วิชานี้ทำให้ข้าพเจ้าได้ทำตามความฝัน แต่ก็อาจมีอุปสรรคในการดำเนินงานบ้างเนื่องจากเป็นครั้งแรกของการเข้ามาอยู่ในมหาลัยเป็นปีแรกและงานนี้เป็นงานชิ้นใหญ่ชิ้นแรกที่เคยทำทำให้ปรับตัวไม่ทันต่อสถานการณ์แต่ในที่สุดก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
            ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนจากอาจารย์ทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการวางตัว การแต่งกาย การทำงานร่วมกับผู้อื่น สอนในเรื่องการฝึกทำงานเป็นทีมก่อนออกฝึกงานสถานที่จริง ซึ่งอาจารย์ก็ได้ให้นักศึกษาไปฝึกการทำงานในมหาวิทยาลัยก่อน ซึ่งจะเป็นการปูพื้นฐานการทำงานให้นักศึกษา และสิ่งนี้ก็เกิดประโยชน์กับตัวนักศึกษาขึ้นจริงๆ เพราะการทำงานในมหาวิทยาลัยก็เหมือนการทำงานในองค์การต่าง ๆ ซึ่งมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันหลายด้านทำให้นักศึกษามีประสบการณ์ในการทำงานมากขึ้น  
            จากการเข้าเรียนวิชาเตรียมฝึกประสบการณ์วิชาชีพบริหารธุรกิจ 3 ทุกครั้งก็ได้มีความรู้เพิ่มเติมมากมายจากแขนงวิชาอื่น ๆ ในคณะ ซึ่งได้นำเอาวิทยากรที่มีความรู้เฉพาะด้านมาให้ความรู้กับนักศึกษา ในหลาย ๆ เรื่อง เช่น ประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัย ซึ่งก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ได้รู้ถึงประวัติที่แท้จริง สถานที่ต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัยที่มีความสำคัญ การพัฒนาบุคลิกภาพและธนาคารความดี โครงการนี้ก็ทำให้ข้าพเจ้าได้ร่วมกิจกรรมกับทางมหาวิทยาลัยด้วยคือการเดินเทิดพระเกรียติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย การบริหารการเงินส่วนบุคคล ได้เรียนรู้ว่าจะบริหารจัดการเงินในกระเป๋าของตนอย่างไรให้เงินที่มีนั้นเกิดประโยชน์สูงสุด ภาษาไทยในชีวิตประจำวันและสุดท้ายคือจรรยาบรรณวิชาชีพกับธรรมะ ซึ่งสิ่งที่นักศึกษาได้รับจากการเรียนวิชานี้หาได้อยากจากการศึกษาในวิชาต่าง ๆ ที่ผ่านมา และก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่สำคัญครั้งหนึ่งในการเรียนในมหาวิทยาลัย แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในครั้งนี้ก็คือความร่วมมือกันทำงานของอาจารย์ทุก ๆ ท่าน ที่ได้ปรึกษากันประชุมกันเพื่อหาสิ่งดี ๆ มาให้กับพวกเรา ขอบคุณค่ะ

บุคลิกภาพสไตล์ BIZCOM

ท่าทางและการเคลื่อนไหว
          การมีท่าทางที่คล่องแคล่วแข็งขัน น่าจะเป็นท่าทางที่ดี มีความเป็นผู้นำ บางคนมุ่งเน้นไปที่ท่าทีภายนอก ว่าจะต้องแคล่วคล่องงามสง่า ทั้งวันจึงอาจมีการเกร็งกล้ามเนื้อ กระดูกสันหลัง และเคลื่อนไหวอย่างฝืนธรรมชาติ ได้ผลทางด้านความสง่า แต่มีผลร้ายทางสุขภาพหรือเปล่า บางทีเรื่องนี้ก็น่าใส่ใจ ซึ่งในขณะเดียวกัน ควรเรียนรู้การวางท่าทางให้ถูกวิธีเพื่อบุคลิกภาพและสุขภาพที่ดีในวันข้างหน้า

1. ท่านั่ง
           ท่านั่งที่ผิดมักทำให้มีอาการปวดหลัง วิธีแก้เริ่มจาก เวลานั่ง ลำตัวต้องตรง เก้าอี้ที่นั่ง เวลานั่งแล้วต้องรู้สึกสบาย และสมส่วน หัวเข่างอระหว่าง 90-105 องศา ถ้าต่ำไปให้หาที่วางเท้า เก้าอี้ต้องมีพนักพิงหลังรองรับ โดยความสูงต้องไม่ต่ำกว่าบริเวณกระดูกสะบัก แต่ถ้านั่งแล้วหลังไม่แตะพนักพิง ให้แก้ได้โดยหาหมอนอิงมาวางไว้ด้านหลัง เก้าอี้ต้องมีพนักวางแขน เพื่อช่วยรองรับข้อศอก
2. การยืน
          ต้องยืนตัวตรง คนที่ยืนตัวตรงได้สง่างามย่อมมีราศีและความสำคัญในตัวเสมอ โดยยืนให้ลำตัวตรง ส่วนสะโพก หน้าอก และศีรษะเป็นเส้นตรงแนวเดียวกันโดยมีกระดูกสันหลังเป็นแกนกลาง ยืนตรงเท้าชิดกันหรือห่างแต่เพียงเล็กน้อยอย่าเกร็งขา อย่าพักขาหรือเข่า หรือปล่อยให้อกยื่น สะโพกยื่น หน้าอกควรยืดตรง ไม่ห่อไหล่ หลังไม่ห่อไม่งองุ้ม ไม่ยืนกอดอก ไม่เท้าเอว ไม่เอามือล้วงกระเป๋ากระโปรงหรือกางเกง เพราะดูแล้วไม่สุภาพ หน้าทองต้องเก็บ หายใจเข้าออกสบายๆ ปล่อยวางร่างกายให้เป็นธรรมชาติ
3. การเดิน
            ต้องถ่ายน้ำหนักลงที่เท้าทั้งสองข้างเท่าๆ กัน ลำตัวตั้งตรง ไม่ต้องเกร็ง อกผาย ไหล่ผึ่ง ร่างกายจะจัดความสมดุลได้เอง หากเราเหยียดตัวตั้งตรงและอกผายไหล่หึ่ง ไม่ไหล่ห่อไหล่งอ เมื่อจะเริ่มเดิน ก้าวเท้าข้างใดข้างหนึ่งไปข้างหน้า ลำตัวยังต้องตั้งตรงเช่นเดิม ผ่อนคลายร่างกายด้วยการไกวแขนตามสบาย แต่วงของการไกวอย่ากว้างจนเกินไป เพราะอาจไปกระทบหรือปะทะกับคนอื่นๆ ความกว้างของการก้าวก็ต้องพอเหมาะพอดีกับวามยาวของช่วงขา งอเข่าเล็กน้อยเมื่อยกเท้าก้าว ตามองตรง และเพื่อไม่ให้เป็นผลร้ายกับกระดูกสันหลัง อย่าถือหรือหอบข้าวของพะรุงพะรัง อย่าสะพายกระเป๋าที่มีน้ำหนักมากจนเกินไป รองเท้าที่เลือกสวม ต้องไม่คับหรือหลวม หรือมีส้นสูงจนมีผลต่อการทรงตัว ทำให้การทรงตัวไม่ดี
4. การแต่งกาย
          ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่งสำนวนนี้มีความสำคัญ เพราะเสื้อผ้านับเป็นภาษาทางกายอย่างหนึ่ง ที่เมื่อใครก็ตามได้พบเห็นเขาสามารถจะคิด จะรู้สึก หรือแปลเป็นความหมายต่างๆได้สารพัด อย่างน้อยที่สุด เสื้อผ้าจะบอกได้ว่าเราให้เกียรติตัวเองหรือไม่ ให้เกียรติสถานที่ที่ไปหรือไม่ ให้เกียรติหน่วยงานหรือองค์กรที่สังกัดเพียงใด ดังนั้นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายจะเป็นตัวช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้นหรือแย่ลงได้ ดังนั้น การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าจะต้องเลือกจาก
1. เป็นตัวเองและมีสไตล์ที่เหมาะสม
2. วาระและสถานที่ (ตามกาลเทศะ)
3. สะอาด สุภาพ และสวยงาม
5. การทักทาย
           สิ่งแรกสำหรับการเริ่มต้นการทักทายคือ รอยยิ้มที่แสดงออกถึงความเป็นมิตรก่อนที่จะกล่าวทักทายตามความเหมาะสมกับบุคคลและสถานที่ ซึ่งหัวใจของการยิ้มมีดังนี้
1. จงทำตัวให้ผ่อนคลาย แสดงความเป็นมิตรและยืนยันท่าทีดังกล่าว ด้วยรอยยิ้ม
2. รอยยิ้มที่ใครก็อยากเห็นคือ รอยยิ้มที่จริงใจ
3. รอยยิ้มที่ดีต้องเกิดจากการมองโลกในแง่ดี และความเบิกบานภายใน เพราะรอยยิ้มที่กลั่นมาจากความรู้สึกดังกล่าวจะดูร่าเริงสดชื่นและมีมนต์ เสน่ห์แก่ผู้พบเห็น
4. รอยยิ้มเป็นภาษาทางกายและกิริยาอื่นๆ ที่ไม่ต้องมากเกินไปยิ้มด้วยความผ่อนคลาย ยิ้มด้วยใจสบาย ไม่มีความวิตกกังวลหรือกระวนกระวาย แต่จงยิ้มด้วยความเชื่อมั่น พึงระลึกไว้ว่ารอยยิ้มบ่งบอกถึงความจริงใจ เป็นรอยยิ้มที่สร้างมิตรภาพน่าจดจำ และดึงดูดผู้คนได้มากที่สุด
5. รอยยิ้มต้องเริ่มต้นจากความเป็นมิตร เมื่อใดที่รู้สึกเป็นมิตรเกิดขึ้นจงสื่อสารออกมาเป็นรอยยิ้ม จงฝึกตนเองให้มีความเป็นมิตร และยิ้มออกมาเพื่อสร้างมิตรจากใจจริง
              ท่วงท่าที่ดีต้องมีความเป็นธรรมชาติ เพราะเรื่องของบุคลิกภาพนั้น เป็นเรื่อง ที่เน้นความเป็น  ธรรมชาติ ไม่เน้นการปรุงแต่งอย่างแข็งขืน ดังนั้น ความเข้าใจว่า เราต้องเก๊กท่าเก๊กทาง อย่างนั้นอย่างนี้ตลอดทั้งวันจึงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ไม่ใช่ความงามสง่า แต่เป็นการเก๊กท่าที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ
              วิธีสังเกตพฤติกรรม และท่วงท่าเพื่อปรับเปลี่ยนให้คุณมีบุคลิกที่ดี และมีเสน่ห์กว่าที่เคยเป็น คือ    หากระจกเงาบานใหญ่ แนวตั้ง สีเหลี่ยมผืนผ้าตั้งไว้ด้านหน้า พิงผนังหรือกระจกเงาแบบมีขาตั้ง
เดินจากจุดเริ่มต้นไปหากระจกเงา และมองที่กระจกนั้น จะเห็นท่วงท่าของตัวเอง จุดที่ต้องแก้ไข
ทำใจยอมรับว่าตัวตนของตัวเองเป็นแบบนี้ จะปรับเปลี่ยนอย่างไรมองเห็นจุดที่ควรปรับเปลี่ยนผ่าน กระจกเงา
หมั่นฝึกท่วงท่า และยอมปรับตัวเอง อาจจะต้องปรับให้ดูเหมาะสมและดูดียิ่งๆ ขึ้น
กล้าแสดงออกในส่วนที่ไม่เคยเป็น และเคยชิน เพื่อความดูดี และบุคลิกใหม่ที่น่ามอง
            เวลามองตัวเองในกระจกเงาแล้ว เห็นจุดบกพร่องที่ควรจะมองเพื่อแก้ไข บางครั้งเราเคยชินกับการที่เป็นแบบนี้มานาน หรืออาจจะเกิดจากกรรมพันธุ์ที่เราเติบโตมา เช่น เดินท่าเหมือนพ่อ กิริยาท่าทางเหมือนแม่เป็นได้ทั้งหญิงและชาย พฤติกรรมในการเดิน การนั่ง การยืน ล้วนถูกปลูกฝัง

เหตุผลที่เลือกการพัฒนาบุคลิกภาพด้านท่าทางและการเคลื่อนไหว
เหตุผลที่เลือกการพัฒนาบุคลิกภาพทางด้านนี้ก็เนื่องมาจาก บุคลิกภาพด้านนี้ของข้าพเจ้ามีปัญหานิดหน่อยในเรื่องของการยืน การนั่ง หรือกระทั่งกิริยาต่าง ๆ ที่แสดงออกมาในสถานที่ที่แตกต่างกัน บางครั้งอาจดูไม่เหมาะสม จึงอยากจะพัฒนาบุคลิกภาพของตนเองในด้านการท่าทางและเคลื่อนไหว ซึ่งถ้าหากพัฒนาบุคลิกภาพได้จริงตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็จะเป็นสิ่งที่ดีทั้งในปัจจุบันและอนาคต เพราะการทำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าหากเรามีบุคลิกที่ดีจะเป็นจุดเด่นของเราจุดแรกที่บุคคลอื่นมองเห็นเป็นอันดับแรก และจะเป็นโอกาสที่ดีของเรา อาจเป็นเรื่อง การเรียน การทำงาน การพบประผู้คน การเข้าสังคมที่มีความเคร่งครัดในเรื่องนี้